สผ. ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ จัดกิจกรรมเนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ประเทศไทยร่วมลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ หรืออนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) เป็นลำดับที่ ๑๑๐ ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศที่ต้องการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำโดยการสนับสนุนให้มีการใช้ประโยชน์อย่างชาญฉลาด โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหน่วยงานประสานงานกลางอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ (National Focal Point) และทุกวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ของทุกปี สำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ กำหนดให้เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก และขอความร่วมมือภาคีจัดกิจกรรมในวันดังกล่าว
ในปี ๒๕๖๔ สำนักเลขาธิการอนุสัญญาฯ ได้กำหนดหัวข้อการจัดกิจกรรมเนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก คือ พื้นที่ชุ่มน้ำและน้ำ (Wetlands and Water) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันของน้ำและระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งน้ำเปรียบเสมือนต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยและพึ่งพาน้ำเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ ที่ใช้น้ำเป็นแหล่งอาศัย และเพาะขยายพันธุ์ หรือแม้กระทั่งสัตว์บกหรือพืชพรรณต่าง ๆ ที่อาศัยทรัพยากรซึ่งเป็นผลมาจากน้ำ เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหาร ในอีกด้านหนึ่งน้ำก็ต้องอาศัยระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อเป็นแหล่งในการควบคุมรักษาคุณภาพน้ำ ซึ่งมีพรรณพืชนานาชนิดช่วยในการบำบัดคุณภาพน้ำ ดังนั้น การสร้างความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้พื้นที่ชุ่มน้ำสามารถดำรงอยู่เพื่อเกื้อกูลสิ่งมีชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ กรมทรัพยากรน้ำ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) จึงจัดกิจกรรมเนื่องในวันพื้นที่ชุ่มน้ำ ประจำปี ๒๕๖๔ เรื่อง Wetlands and Water ผ่านทางสื่อออนไลน์ Facebook: Biodiversity CHM Thailand เพื่อประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้อง ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความเชื่อมโยงกันระหว่างพื้นที่ชุ่มน้ำและน้ำ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตและความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ และเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเกิดความหวงแหนในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งสามารถนำประสบการณ์และความรู้จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่ชุ่มน้ำอื่น ๆ ต่อไป โดยกิจกรรมภายในงานมีการนำเสนอสารจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ ความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ที่จะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยคงความอุดมสมบูรณ์ และเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้อย่างยั่งยืน สารจาก Ms. Martha Rojas Urrego เลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ Mr. Renaud Meyer ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย การนำเสนอบทบาทการดำเนินงานในการบริหารจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำจาก ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
การเสวนาในหัวข้อ “พื้นที่ชุ่มน้ำ สายน้ำ กับวิถีชุมชนเมือง” จากผู้มีความรู้และประสบการณ์ทำงานด้านพื้นที่ชุ่มน้ำ ประกอบด้วย ผศ.ดร.กอบศักดิ์ วันธงไชย คณบดีคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.วิเทศ ศรีเนตร ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศและการมีส่วนร่วม ดร.กชกร วรอาคม ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและวางผังพื้นที่สีเขียว นายศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ นักแสดงและประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิวศุภศิษฏ์ สตูดิโอ จำกัด และ ดร.เพชร มโนปวิตร นักวิชาการอิสระ รวมทั้งนำเสนอสื่อคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำกับวิถีชีวิตชุมชน