“สุวัจน์”พาน้าชาติ come back โคราช เปิดสนง.ใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า ยิ่งใหญ่
วันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลา 8.30 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และพิธีเปิดป้ายสำนักงานใหญ่ พรรคชาติพัฒนากล้า จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช กรรมการบริหารพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค พี่น้องประชาชนชาวโคราช ร่วมงานจำนวนมาก
นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ได้ฤกษ์เปิดสํานักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนากล้า และเปิดอนุสรณ์สถานพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ที่สํานักงานพรรคชาติพัฒนากล้า เดิมทีพรรคชาติพัฒนามีสํานักงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แล้วก็มีประติมากรรมของท่านพลเอกชาติชาย ที่ได้สร้างไว้แล้วประดิษฐานอยู่ที่กรุงเทพ เรียกว่า “อนุสรณ์สถานพลเอกชาติชาย” พอวันนี้พรรคชาติพัฒนาได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา สํานักงานใหญ่ แล้วก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า ฉะนั้น เพื่อเป็นขวัญเป็นกําลังใจ เป็นมงคลให้กับสมาชิกพรรค พี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่เลื่อมใสศรัทธาท่าน วันนี้จึงได้มีพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน รวมทั้งเปิดป้ายที่ทําการด้วย
“ผมต้องขอขอบพระคุณ พี่น้องชาวโคราชที่ได้มาร่วมงานกันหลายพันคนด้วยความน่ารัก และท่านไม่ได้มามือเปล่าจะมีดอกไม้จากหมู่บ้าน จากสวน จากที่ไหนที่จัดเตรียมมาเพื่อมาวางหน้าอนุสรณ์สถานน้าชาติ เพื่อแสดงออกถึงความอาลัยรัก ที่มีต่อท่านอดีตนายกฯ ขวัญใจชาวโคราชที่ได้สร้างคุณูปการ ผลงานอันยิ่งใหญ่ จํานวนมากมาย ให้กับประเทศชาติและก็คนโคราช” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
พลเอกชาติชาย ทั้งในฐานะนักการทูต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่นโยบายต่างประเทศ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การพัฒนาเขตอีสเทิร์นซีบอร์ด จนทำให้ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 10 ต่อ GDP ได้รับขนานนามว่าเป็นเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชียในยุคนั้น เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ ปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง พร้อมย้ำถึงความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับชาวโคราช ผ่านโครงการ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี, สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่า, โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และสวนสัตว์นครราชสีมา
“วันนี้ท่านชาติชาย come back แล้ว ท่านชาติชาย come back กลับมาโคราช ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของลูกหลานของสมาชิกพรรคที่จะทําให้การ come back นั้นเกิดขึ้นเป็นจริง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพื่อประโยชน์ของชาวโคราชก็ตั้งใจจะทําให้ดีที่สุด”
นายสุวัจน์ บอกว่าวันนี้ ท่านชาติชาย มาอยู่กับพวกเราที่นี่ก็มีกําลังใจแล้วก็ระลึกถึงท่านเสมอ สิ่งที่ท่านทําอะไรไว้ก็อยู่ในความทรงจําที่พวกเราจะต้องทําสิ่งดีๆ อย่างที่ท่านชาติชาย ทําเอาไว้ให้ชาวโคราชตลอดไป เพราะตอนที่ท่านชาติชาย เป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาท่านแรก ส.ส.โคราชมี 16 เสียง พรรรคได้มา 15 เสียง ถามว่าผมจะได้เท่าไหร่ ผมไม่ทราบ แต่ผมจะทําให้ดีที่สุด ยิ่งวันนี้หลังจากเปิดอนุสรณ์สถานแล้ว ผมเชื่อว่าพวกเรามีกําลังใจที่จะทํางานให้ชาวโคราช
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้าชาติ come back บวกกับคุณกรณ์ จาติกวณิช มาอยู่ด้วยทำให้พรรคชาติพัฒนากล้า เข้มแข็งทางการเมือง
นายสุวัจน์ กล่าวว่าท่านกรณ์ก็มาร่วมงานกับเราก็ยินดี เพราะวันนี้ปัญหาของบ้านเมือง คือเรื่องเศรษฐกิจ แล้วท่านกรณ์ ถือว่าเป็น บุคลากรทางการเมือง เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ มีพื้นฐาน มีประสบการณ์ ฉะนั้น การที่ท่านมาร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนา ซึ่งวันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคชาติพัฒนากล้า” ผมถือว่าจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรค แล้วก็จะทําให้บทบาทของพรรคในการเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวิกฤตขนาดนี้ของพี่น้องประชาชนมีความสําเร็จมากยิ่งขึ้น
ด้านนายกรณ์ กล่าวเสริมว่า วันนี้พรรคกล้ามาร่วมกับพรรคชาติพัฒนากล้ามาครบทีม ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารของพรรค หรือว่าที่ผู้สมัครของพรรคทุกคนมารวมพลังกันที่นี่ที่ชาติพัฒนากล้า อย่างที่ท่านประธานสุวัจน์ ได้กล่าวเรียนเมื่อสักครู่ ความท้าทาย ของคนไทยวันนี้ หนีไม่พ้นเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ และมั่นใจเลยว่าด้วยประสบการณ์ทางการเมืองการบริหารหลายกระทรวงมาของท่านสุวัจน์ แล้วก็เพื่อนสมาชิกในชาติพัฒนาเก่า เราสามารถที่จะรวมพลังกันเพื่อที่จะตอบโจทย์ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี
วันนี้มีโอกาสได้มาร่วมพิธีเปิดอนุสรณ์สถานพลเอกชาติชาย ก็ได้รับการตอบรับโดยพี่น้องชาวโคราชอย่างอบอุ่น แล้วก็ได้ฟังเรื่องราวที่ท่านประธานสุวัจน์ ได้เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติชีวิตการทํางานของพลเอกชาติชาย ก็ทําให้ผมมีความรู้สึก คือ 1.ความภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วมเล็กๆ ในตํานานนี้ 2.ความรู้สึกว่าองค์กรหรือสถาบันมีคุณค่าต่อสังคม มักจะเป็นองค์กรที่มีตํานาน มีที่มาที่ไป ซึ่งวันนี้ผมคิดว่าค่อนข้างชัดเจนตัวชาติพัฒนาแต่เดิมมีบทบาทสําคัญ มีตํานานอย่างไร ไม่ใช่เพียงแค่ช่วยพัฒนาโคราชให้กับพี่น้องชาวโคราชให้กับประเทศเพราะว่ายุคสมัยที่ท่านชาติชายเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นยุคที่รุ่งเรืองจริงๆ ผมพูดได้เพราะว่าด้วยประสบการณ์ ท่านขึ้นมาเป็นนายกฯ วันที่ 4 สิงหาคม 2531 ซึ่งเดือนนั้นเป็นเดือนเดียวกันโดยบังเอิญที่ผมเดินทางกลับจากต่างประเทศมาเปิดบริษัทหลักทรัพย์ ตอนนั้นผมอายุ 24 ปี ต้องบอกว่าช่วงปีสองปีหลังจากนั้นเป็นช่วงที่ทํามาค้าขายได้ดีมากเป็นช่วงที่พวกคนในวงการเรียกว่า “มนุษย์ทองคํา” เราเป็นมนุษย์ทองคําได้ก็เพราะ สภาพบรรยากาศเศรษฐกิจที่ดี ภายใต้การบริหารจัดการของท่านชาติชาย
นั่นคือ เป้าของทางพี่สุวัจน์กับผมที่จะนําบรรยากาศนั้นกลับคืนมาให้กับประเทศไทย
เอาบรรยากาศการมีความหวังและมีโอกาสกลับคืนมาให้กับคนรุ่นใหม่ และให้คนทํางานมีความรู้สึกว่าเขาสามารถที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของเขาและครอบครัวเขาได้ นี่คือ เป็นแรงบันดาลใจที่ได้จากวันนี้ และนั่นคือ ความตั้งใจของพรรคชาติพัฒนากล้าจากต่อไปนี้
ด้านนายสุวัจน์ กล่าวต่อว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทุกคนก็อยากที่จะเห็นเศรษฐกิจดีๆ
กลับมาบ้านเมืองเรียบร้อย ฉะนั้น เราก็มีหน้าที่ช่วยกันกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจให้ประเทศ นําความสงบเรียบร้อย มีความร่วมไม้ร่วมมือกันทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งคือทางออก ผมว่าวันนี้ก็ต้องช่วยกัน อย่างเดือนหน้าเราก็จะเป็นเจ้าภาพเอเปค ซึ่งเป็นเวทีที่สําคัญในฐานะเจ้าภาพที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุม และเป็นโอกาสที่เราจะใช้เวทีสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
แล้วหลังจากนั้น ก็เป็นการเข้าสู่สนามเลือกตั้งก็ต้องช่วยกันดูแลสถานการณ์ต่างๆ ให้เกิดความเรียบร้อยที่จะนําไปสู่การเลือกตั้งที่ได้รับการยอมรับ เพราะการเลือกตั้งที่ได้รับการยอมรับ จะนําไปสู่เสถียรภาพทางการเมือง แล้วก็นําไปสู่รัฐบาลที่เข้มแข็ง นําไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ดี ที่ประสบความสําเร็จให้กับพี่น้องประชาชน