เปิดบ้านกระต่ายน้อย MA YL HINDU กับการพูดคุย แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงกระต่าย

สำหรับปีที่แล้วเราได้รู้จักกับบ้านมายลกันไปแล้ว ปีนี้เรามาทำความรู้จักกับเขาให้เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ทางเราก็ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับ “คุณเต่า” และ”คุณหนุ่ย” แห่งบ้านกระต่ายน้อย MA YL HINDU PLACE กันอีกครั้ง เพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงกระต่ายอย่างถูกต้อง พร้อมกับแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงข้อที่ควรระมัดระวังต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่เลี้ยงกระต่ายได้ดูแลน้องๆ อย่างเหมาะสมนั่นเอง

Q : ก่อนอื่นเลยเพื่อเป็นการต้อนรับปีเถาะ อยากบอกอะไรกับคนรักกระต่าย ที่คาดว่าปีนี้จะมีมือใหม่ที่เข้ามาเลี้ยงกันมากขึ้น
A : ผมเชื่อว่ามีมือใหม่หันมาเลี้ยงเยอะมากขึ้นแน่นอน และมือเก่าก็น่าจะอยากเพิ่มจำนวน สิ่งสำคัญที่มักจะบอกกับเพื่อนๆ ทุกครั้ง คือความรู้ในการเลี้ยง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ ถ้าคุณมีความรู้ในการเลี้ยงที่ถูกต้อง นั่นคือ อาวุธที่ดีในมือ ที่จะให้คุณมีความสุขในการเลี้ยงกระต่าย

Q : แล้วการเลี้ยงที่ถูกต้อง หรือหลักการสำคัญของการเลี้ยงกระต่ายคืออะไร                       
A : หลักๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของอากาศและโภชนาการของกระต่าย ด้วยความที่บ้านเราเป็นเมืองร้อน พื้นที่ในการเลี้ยงกระต่ายควรมีอากาศถ่ายเทที่ดี ไม่ร้อนอบอ้าว ยิ่งหากเลี้ยงในห้องแอร์ได้คือดีมากเลย เพราะอากาศที่ดีจะทำให้กระต่ายมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบาย และทำให้เกิดการกินการอยู่ที่ดีตามมา เรียกว่าเลี้ยงแอร์จะสมบูรณ์ได้ง่ายเลย กลับกันถ้าเลี้ยงในพื้นที่อากาศปกติ แต่เปิดพัดลม ก็เลี้ยงได้เช่นกัน ทั้งนี้ในหน้าร้อนอาจจะต้องให้ความสำคัญกับอากาศเป็นพิเศษหน่อย เพราะหน้าร้อนบ้านเราร้อนมากจริงๆ

       ส่วนเรื่องโภชนาการของกระต่าย คร่าวๆ คือหลีกเลี่ยงผักสด อาหารคน ขนมนกหรือรูปแบบอัดเม็ดสีต่างๆ สิ่งที่บอกขั้นต้นนี้ เพราะยังเห็นหลายบ้านยังให้ทานกันอยู่ ซึ่งมันเป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่ไม่เหมาะกับระบบทางเดินอาหารของกระต่าย เสี่ยงต่อการเกิดโรคตามมาได้ง่าย โดยหลักการทานของกระต่ายส่วนใหญ่ จะแบ่งเป็น หญ้าแห้ง 80% อาหาร 15% และขนม 5% ในกระต่ายเด็ก หรือวัยไม่ถึง 6 เดือน เน้นให้อัลฟาฟ่าเป็นหลัก เพื่อความสมบูรณ์และการเจริญเติบโต เพราะอัลฟาฟ่าเป็นพืชตระกูลถั่ว ที่มีโปรตีนและแคลเซียมสูง เหมาะกับกระต่ายในวัยเด็ก ส่วนหลังจากวัย 6 เดือนขึ้นไป เราจะให้หญ้าแห้งที่เรียกว่า ทิมโมธี จัดเป็นหญ้าที่มีโภชนาการที่เหมาะสมกับระบบทางเดินอาหารกระต่ายมากที่สุด มีไฟเบอร์และโปรตีนที่ดี เราจะให้หญ้ากันแบบบุฟเฟต์เรียกว่าเติมไม่อั้นกันเลย ถึงมีนิยาม “อาหารหลักของกระต่ายคือ หญ้าแห้ง”                          

Q : การให้อาหารกระต่ายควรให้อย่างไร บ่อยแค่ไหนต่อวัน
A : อาหารจะให้เป็น 1 มื้อหรือ 2 มื้อ เช้า-เย็นก็ได้ แต่แนะนำให้ 1 มื้อ ในปริมาณที่พอเหมาะตามวัย จะทำให้กระต่ายทานหญ้าได้มากขึ้นด้วย ซึ่งการแบ่งให้ 2 มื้อ จะเห็นได้ว่ามีบางบ้าน กระต่ายทานหญ้าได้น้อยลง และส่วนของขนม เช่น ผลไม้อบแห้ง คุกกี้หญ้า หรือพวกรากแดนดิไลออน ลับฟัน ก็สามารถให้ทานได้แต่ในปริมาณที่น้อย

       การที่เราควบคุมสัดส่วนการทานของกระต่ายให้ได้ตามข้างต้น ผมบอกเลยว่ากระต่ายจะสมบูรณ์และสุขภาพดี แต่หากเราตามใจน้องหรือเลี้ยงเป็นลูกให้ทานขนมเยอะๆ อาจจะเห็นถึงความร่าเริงทุกครั้งที่ให้ แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว                                             

Q : หญ้าทิมโมธีอัลฟาฟ่า ในบ้านเราหายากไหม
A : ในปัจจุบันหาไม่ยากแล้วครับ สำหรับบ้านมายลก็นำเข้ามาทุกเดือน เพราะจุดประสงค์หลักๆ คือเพื่อให้เด็กๆ ที่บ้านได้กินกัน ซึ่งกระต่ายของมายลของเราได้กินหญ้าเกรดที่ดีตลอด หรือที่เรียกว่าเป็นเกรดกระต่ายโดยเฉพาะเลย เพราะฟาร์มหญ้าที่นำเข้ามาจากอเมริกา ให้กับกระต่ายหรือกลุ่มสัตว์ฟันแทะโดยเฉพาะ ที่เลือกหญ้าฟาร์มนี้ เพราะเขาเป็นฟาร์มหญ้าระดับ Top ของอเมริกาเลย เป็น Western Timothy จากแหล่งปลูกโซนภูเขาไฟ กลิ่นจะหอมแรงเป็นเอกลักษณ์ เขียวใหม่ตลอด จะเห็นได้ว่ารูปร่างของกระต่ายที่บ้านมายล จะมีแต่ตัวที่สมบูรณ์ๆ เพราะกินหญ้ากันเยอะมากจริงๆ นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องนำเข้าเอง และก็พอมีแบ่งเพื่อนๆ คนอื่นในราคาย่อมเยา ซึ่งบ้านที่สั่งหญ้าประจำจะทราบดี บ้านเราจะดูแลลูกๆ ของเพื่อนๆ ทุกคนเหมือนลูกเราเลย "ฝากท้องกับมายล ลูกไม่มีอด"                                            

Q : อีกเรื่องที่อยากสอบถาม กระต่ายอึฉี่เหม็นมากจริงไหม
A : ก็ต้องตอบตามตรงว่า จริงครับ แต่จะบอกว่า อึกระต่ายไม่ได้เหม็น ถ้าเป็นก้อนกลมปกติ ไม่รวมถึงอึท้องเสียหรือมูกนะครับ แต่ที่เหม็นนั้นคือ ฉี่กระต่าย เพราะในฉี่ของกระต่ายจะมีแอมโมเนียอยู่มาก และเวลาที่อึกับฉี่มารวมกัน ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงของกลิ่นขึ้นมาอีก

       แต่นั่นก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับบ้านมายลเลยนะครับ เพราะที่บ้านใช้ขี้เลื่อยดับกลิ่น ด้วยคุณสมบัติดูดซับและดับกลิ่นในตัว หน้าที่ของขี้เลื่อย เมื่อเรารองเอาไว้ในถาดตรงที่มีฉี่ ขี้เลื่อยจะแตกตัว ดูดซับและดับกลิ่น เรียกว่า เป็นสูตรพิเศษของที่บ้านเรา แตกต่างจากขี้เลื่อยทั่วๆ ไป เพราะที่บ้านมายลก็ใช้มาตลอด ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 8 แล้ว ที่สำคัญเป็นธรรมชาติ 100% ไร้สารเคมี ปลอดภัยหายห่วง (ถ้าไม่ดี มายลไม่แนะนำแน่นอน) หรือบ้านไหนชอบเลี้ยงน้องแบบยุโรปหรือเมกา ที่ปูพื้นรองกรงด้วย Bedding บ้านเราก็มีใยลินินพรีเมียม ที่นำเข้ามาจากยุโรปครับ เป็นพืชที่นิยมมาปูรองกรงดูดซับและดับกลิ่นได้ดีเช่นกัน ข้อสำคัญของใยลินิน คือ ไร้สารระเหย ที่มีในเนื้อไม้ ส่งผลทำลายปอด เรียกว่าเป็นใยลินิน ที่ปูรองกรงที่ดีต่อสุขภาพของสัตว์และผู้เลี้ยง ยังไงก็ลองศึกษา กันดูว่าชอบเลี้ยงแบบไหน จริงๆ เรื่องกลิ่นถือเป็นอีกเรื่องสำคัญ “เพราะหากกลิ่นไม่มี สุขภาพที่ดีก็ตามมานั่นคือเรื่องจริง”                     

จากที่คุยกันมาจนถึงตอนนี้ การเลี้ยงกระต่ายก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ถ้าหากมีความพร้อมในการเลี้ยงและความรู้พื้นฐานตามที่บ้านมายลได้แบ่งปันมา อยากแอบถามให้เพื่อนๆ ทุกคนที่มีความชอบและสนใจอยากเลี้ยงกระต่าย Holland Lop ในปีนี้บ้านมายลจะพอมีแบ่งให้กับเพื่อนๆ หรือคนที่ติดตามมายลกันบ้างไหม                        

เรียกว่าเป็นคำถามสุดฮิตในทุกวันเลย ตื่นมาจะมีข้อความทักเข้ามาว่า “อยากได้กระต่ายมายล” “เมื่อไหร่จะแบ่ง” “ทำไงยังไงจะได้” ขอบอกปีนี้มีแพลนว่า จะแบ่งเด็กๆ ที่บ้านให้กับเพื่อนๆแล้ว หากใครที่สนใจสามารถไปติดตามและสอบถามมายลได้ที่ Line official : @MAYL (มี@) และทักเข้ามาแนะนำตัวพูดคุยกัน แจ้งว่าชอบน้องๆ แนวไหน ถ้าพอมีก็แบ่งให้ได้ ถ้าเพื่อนๆมีความพร้อมและมีความรู้ในการเลี้ยง เรียกว่าได้ไปไม่ยากเลย แต่ถ้ายังไม่มีความรู้ หรือยังอยากศึกษา ก็เข้ามาพูดคุย สอบถามกันก่อนได้ครับ                        

สุดท้ายนี้รบกวนฝากอะไรถึงมือใหม่ที่มีความสนใจอยากเลี้ยงกระต่ายกันซักหน่อย
มายลอยากฝากกับเพื่อนๆ ที่เป็นมือใหม่ ในปีกระต่ายนี้ ถ้าอยากเลี้ยง ขอแนะนำว่าควรศึกษาให้ดีก่อนเลี้ยง และหากมีความพร้อมมากพอก็ควรเลือกกระต่ายที่มีความสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง มากกว่าโครงสร้างหรือเกรดของน้องนะครับ “เพราะสุขภาพกระต่ายที่ดี จะทำให้ชีวิตในการเลี้ยงกระต่ายของเราและน้องแฮปปี้มากๆ เชื่อผม

Facebook : https://www.facebook.com/hinduplacemayl/